Maze Runner:The Death Cure เมซ รันเนอร์ไข้มรณะ

โทมัส (Dylan O’Brien), นิวต์ (Thomas Brodie-Sangster) ร่วมด้วยเบรนดา (Rosa Salazar) และฮอร์เฮ (Giancarlo Esposito) และพรรคพวก

ต้องเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนอย่างมินโฮ (Ki Hong Lee) ที่องค์กรจับตัวไปที่นั่นมีการป้องกันแน่นหนา กำแพงที่สูงตระหง่าน ที่นั่นมีทั้ง เอวา เพจ (Patricia Clarkson) ผู้เป็นใหญ่เป็นโตในองค์กร ที่มีเทรีซา (Kaya Scodelario) คนเคยรักของโทมัสเป็นผู้ช่าย ขณะที่แจนสัน เจ้าหน้าหนู (Aidan Gillen) ก็ดูชักจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ

บทสรุปของเมซ รันเนอร์ จะเป็นอย่างไร คนที่ติดตามมาแต่ต้นคงไม่พลาดที่จะดู

รีวิว วิจารณ์หนัง ‘Maze Runner The Death Cure’
เป็นธรรมดาของบุคคลผู้ติดตามมาแต่ภาคแรก มีรึที่จะพลาดการรับชมภาคที่สามไปได้ ภาคแรกนั้น ทำเอาไว้ได้ค่อนข้างพอตัว สร้างความลุ้นระทึกได้พอประมาณ ขณะที่มาภาคสองนั้น การเล่าเรื่องดูอ่อนยวบไปมาก แต่ได้จังหวะการลุ้นหนีตายที่ทำได้ดีจนหลายคนหายใจไม่ทั่วท้องช่วยเอาไว้ได้ทัน

มาภาคนี้ หนังยาวขึ้นกว่าสองภาคแรก นัยว่าตั้งใจจัดเต็มในฐานะที่เป็นภาคสรุป

ตัวละครเพียบ เกลี่ยบทบาทได้เกือบพอดี
นับเป็นภาคที่ตัวละครไม่ต่างจากภาคก่อนนัก แต่ให้ความสำคัญกับตัวละครแต่ละตัวมากพอดู มีเวลาและความหมายต่อการดำเนินเรื่องในระดับที่ใกล้เคียงกัน ถือว่าเกลี่ยบทบาทได้ดี

แม้บางตัวจะกลายเป็นตัวที่ถูกทิ้งกลางทางดั่งที่ช่วยมาไม่มีใครเห็นก็ตามทีหลายคนอาจจะสนุกกับการจิ้น การชิป ซึ่งผมไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย การเสพหนังเรื่องนี้ของผมจึงเน้นไปที่การดำเนินเรื่องราว ความสัมพันธ์ของตัวละครในเชิงที่หนังเป็น ซีจีและความสมเหตุสมผลของเรื่องราว

หลายคนอาจจะสนุกกับการจิ้น การชิป ซึ่งผมไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย การเสพหนังเรื่องนี้ของผมจึงเน้นไปที่การดำเนินเรื่องราว ความสัมพันธ์ของตัวละครในเชิงที่หนังเป็น ซีจีและความสมเหตุสมผลของเรื่องราว

ช่วงเวลาครึ่งหลังของหนังให้เวลากับฉากสงครามที่เป็นฉากหลัง และใช้ทีมตัวละครหลักชิงไหวชิงพริบกันเป็นฉากหน้า ถือว่าไม่เลว

แค่อาจจะไม่มีอะไรให้รู้สึกว้าวเท่าช่วงก่อนแล้วก็เท่านั้นเอง

ขยี้ดราม่ามากกว่าเคย ให้แอคชั่นมากกว่าเดิม
ระหว่างดู อาจรู้สึกได้บ้างถึงความแปลกใจในการกระทำของตัวละคร บางทีก็สงสัยว่าทำไมตัวละครจึงทำเช่นนั้นนะ แต่โดยรวม นอกเหนือจากฉากเปิดเรื่องที่ทำได้ตื่นเต้นดี และการเปิดตัวละครแบบเซอร์ไพรซ์แล้ว หนังก็ไม่ชักชวนให้รู้สึกว้าวอะไร

แต่เมื่อผ่านช่วงดร็อปไป หนังก็อัดเต็มที่กับฉากแอคชั่นและซีจีเมืองสุดท้ายที่กำลังถูกถล่มมากขึ้น ปลุกให้ตื่นจากความง่วงเหงาสู่ความเพลิดเพลินกับเรื่องราว ที่พบว่าบางช่วงที่อืดอาดไปบ้าง ขณะที่บางช่วงก็ทำได้กระชับดี

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการขยี้…

ใครที่อินมากับภาคก่อน ผูกพันมากับเรื่องราวของตัวละครในภาคก่อนๆ มาภาคนี้ผู้เขียนบทและผู้กำกับจัดหนักสำหรับคนกลุ่มนี้ พวกเขาขยี้ในด้านความสัมพันธ์ให้หนักข้อ น่าจะมีคนที่อินมากขนาดเสียน้ำตาได้ไม่ยาก แม้ว่าบทจะดูออกได้หมดว่ามันจะเกิดอะไรในช็อตต่อได้ก็ตาม แต่สำหรับใครที่ไม่อินอะไรมาแต่แรก ก็อาจต้องบอกว่า…

ภาคนี้ก็คงไม่ได้ทำให้อินอะไรได้เพิ่มขึ้นมากนักหรอกครับ
ความน่าสนใจของหนังที่มีภาคต่อก็คือ การที่ต้องติดตามและรอคอย ในกรณีที่หนังมีอะไรให้น่าติดตามและค้นหาคำตอบที่ขาดหาย มีหนังจากหนังสือหลายเรื่องที่เดินทางสู่จุดหมายปลายทางได้สำเร็จ และ ‘เกมล่าปริศนา’ คือหนังชุดที่ถูกสร้างเป็นไตรภาคได้สำเร็จในที่สุด วันนี้ ผมได้พบกับ ‘Maze Runner The Death Cure’ ภาคที่สามที่เป็นบทสรุปของ ‘The Maze Runner’ ภาคแรกและ ‘The Scorch Trials’ ภาคที่สอง

—————-

ชื่อภาพยนตร์: Maze Runner: The Death Cure / เมซ รันเนอร์ ไข้มรณะ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Wes Ball
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: T.S. Nowlin (screenplay by), James Dashner (based upon the novel by)
นักแสดงนำ: Dylan O’Brien, Ki Hong Lee, Kaya Scodelario, Thomas Brodie-Sangster, Dexter Darden, Will Poulter, Rosa Salazar, Patricia Clarkson, Giancarlo Esposito
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ความยาว: 142 นาที
แนว/ประเภท: Action, Sci-Fi, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
ปี: 2018
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 25 มกราคม 2018
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Gotham Group, Temple Hill Entertainment, Twentieth Century Fox หนังออนไลน์ หนังบู๊แอ็คชั่น